โรคเก๊าทฺรักษาแบบง่ายๆ

โรคเก๊าท์









โรคเก๊าท์ เกิดขึ้นได้อย่างไร

โรคเก๊าท์ เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยในเพศชาย ผู้ป่วยจะมีอาการปวดที่ข้ออย่างฉับพลัน รวมถึงยังมีอาการข้อแข็ง และบวม ซึ่งมักจะเป็นที่นิ้วหัวแม่เท้า ถ้าผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาการของโรคเก๊าท์ก็จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และอาจเป็นอันตรายต่อข้อต่อ เส้นเอ็นและเนื้อเยื่ออื่น ๆ ได้
โรคเก๊าท์เกิดจาก ร่างกายมีกรดยูริคในเลือดสูงกว่าปกติ และมีการสะสมกรดยูริคเป็นระยะเวลาที่ยาวนานหลายปี จึงทำให้กรดยูริคตกตะกอน สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ถ้าสะสมมากที่ข้อต่อ ก็จะเกิดอาการข้อต่ออักเสบ และปวดแดงร้อนบริเวณข้อต่อ, ถ้ากรดยูริคสะสมอยู่ตามผิวหนังมาก จะส่งผลให้เกิดปุ่มนูนบนขึ้นตามผิวหนัง, ถ้ากรดยูริคสะสมที่ไตมาก ก็จะเกิดเป็นโรคนิ่วในใตและเกิดอาการใตเสื่อม เป็นต้น

สาเหตุของโรคเก๊าท์

โรคเก๊าท์เกิดจากการมีกรดยูริกในเลือดมากเกินไป (hyperuricemia) ซึ่งสาเหตุของภาวะกรดยูริกในเลือดสูงมีคำอธิบายที่ยังไม่ชัดเจน แต่มีความเชื่อว่าปัจจัยทางด้านพันธุกรรมน่าจะมีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว
เมื่อกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น อาจตกผลึกในข้อต่อ ซึ่งจะกระตุ้นกระบวนการในระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดการอักเสบ รวมถึงอาการปวด และบวมของข้อต่อ
แม้ว่าสาเหตุของโรคเก๊าท์ที่แท้จริงยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด แต่ปัจจัยเสี่ยงบางอย่างพบว่าเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของกรดยูริกโดยตรง ได้แก่
  1. การมีน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน
  2. รับประทานอาหารที่มีพิวรีน (purine) สูง เช่น เนื้อสัตว์ และอาหารทะเล เนื่องจากพิวรีนสามารถเปลี่ยนเป็นกรดยูริกได้ภายในร่างกาย
  3. ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
  4. ยาบางชนิดที่อาจเพิ่มระดับของกรดยูริก เช่น แอสไพริน (aspirin) ไนอาซิน (niacin) หรือการใช้ยา-ขับปัสสาวะ (diuretics)
  5. ความเจ็บป่วยหรือสภาวะทางการแพทย์บางประการ เช่น การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือโรคความดันโลหิตสูง

กรดยูริคคืออะไร

กรดยูริคนั้นเป็นสารที่เกิดจากร่างกายของเรา สามารถสร้างขึ้นได้เองถึง 80% ในร่างกาย ส่วนอีก 20% ที่เหลือ จะนำเข้ามาจากรับประทานอาหาร ที่มีสารพิวรีนเข้าไป โดยสารพิวรีนสามารถพบได้ในอาหารจำพวก สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ พืชผักบางชนิด และอาหารทะเลบางอย่าง

ถ้าหากในร่างกายมีกรดยูริคมากเกินไป

ตามปกติแล้วร่างกายของคนเรา จะขับกรดยูริคที่เกินความจำเป็นออกไป ได้ทางปัสสาวะ แต่ในร่างกายของบางคนไม่สามารถขับกรดยูริคออกไปได้หมด จึงเกิดกรดยูริคสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในบริเวณของกระดูก ผนังหลอดเลือด และไต(ที่เป็นตัวฟอกเลือด+ขับกรดยูริคไปทางปัสสวะ) ดังนั้น การขับกรดยูริคออกไปไม่หมดจนตกตะกอนมากๆ จึงกลายเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคเก๊าท์ 

อาการของโรคเก๊าท์

โรคเก๊าท์ในระยะเริ่มแรก คือมีอาการปวดแดงอย่างเฉียบพลัน โดยในช่วงวันแรกจะเป็นช่วงที่ปวดมากที่สุด และไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า จุดที่จะแสดงอาการก่อนส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้แก่นิ้วโป้งเท้า และตรงข้อเท้า และข้อเข่า หลังจากเวลาผ่านไปในวันที่สองอาการปวดก็จะเบาบางลงและหายปวดใน 5 - 7 วันหลังเกิดอาการ โดยสถิติแล้วพบว่า เพศชายมีโอกาสเป็นโรคเก๊าท์มากกว่าเพศหญิง
อาการที่เด่นชัดของโรคเก๊าท์ คือ โพดากร้า (podagral) ซึ่งจะมีอาการอักเสบของข้อที่นิ้วหัวแม่เท้า ผู้ป่วยจะรู้สึกปวด รวมถึงสังเกตได้ว่าข้อเท้ามีอาการบวมแดงและร้อน อาการปวดมักจะเริ่มต้นในช่วงกลางคืน ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดอาจเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 1 ชั่วโมง

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพฟรี ที่ 065-096-4419 , 093-264-9053 หรือ

คลิิ๊กลิงค์ด้านล่างทักแชทได้ทันทีhttps://line.me/R/ti/p/%40thanawatdboon

แนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลโรคเก๊าท์ เฉพาะทาง




    ลดปริมาณกรดยูริก ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเก๊าท์
    ลดอาการปวดตามข้อในผู้ป่วยโรคเก๊าท์
    บำรุงไตให้แข็งแรง ลดภาวะไตเสื่อมปรับสมดุลกรดยูริกในร่างกาย
    ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล น้ำตาล และไขมันในเลือดและช่วยปรับระดับความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    บำรุงระบบไหลเวียนโลหิตและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

1.Rehmannia Root เส็กตี่หรือ Chinese foxglove เป็นยาสมุนไพรจีนโบราณที่มีใช้กันอย่างกว้างขวาง ช่วยบำรุงไตให้ชุ่มชื่น มีประโยชน์ต่อผู้ที่มีพลังไตอ่อนแอ ทำให้ระบบปัสสาวะเป็นปกติ ช่วยสลายผลึกของกรดยูริกที่เกาะอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายและขับออกมาทางปัสสาวะ ทำให้ปริมาณกรดยูริกและอาการอักเสบ ปุ่มบวมจากโรคเก๊าท์ลดลงได้ และลดการปวดตามข้ออีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยช่วยในการบำรุงเลือด ลดความดันในเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงไขกระดูกให้แข็งแรง
2.Folic Acid หรือวิตามินบี 9 เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำเป็นวิตามินบีสำคัญที่ช่วยในการย่อยสลาย macronutrients ที่มีความสำคัญสำหรับการทำงานและประสิทธิภาพของอวัยวะในร่างกายการรักษาอวัยวะต่างๆเช่นไตและตับจะช่วยให้มั่นใจว่าสามารถกรองกรดยูริกออกจากเลือดและขับออกทางปัสสาวะได้อย่างมีประสิทธิภาพกรดโฟลิกสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์xanthine oxidase ที่ใช้รักษาอาการโรคเก๊าท์เมื่อกรดยูริกลดลง ทำให้รักษาโรคเก๊าท์ได้นอกจากนี้กรดโฟลิคมีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดงป้องกันโรคภาวะโลหิตจางบำรุงไต ทำให้ขับกรดยูริกได้เป็นปกติ 3.Ganodermalucidum extract เห็ดหลินจือ เป็นหนึ่งใน สมุนไพรเก๊าท์ ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก โดยช่วยฟื้นฟูการทำงานของไต ลดการอักเสบของไต สร้างสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบหมุนเวียนโลหิต ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อย ปวดข้อ ช่วยบรรเทาอาการปวดโรคเก๊าท์ และ โรครูมาติกและยังมีสารสำคัญหลายชนิดเป็นสาร Anti-oxidant ที่ช่วยชะลอความแก่ ลดการเสื่อมสลายของเซลล์4. Dandelion สารสกัดแดนดิไลออนสกัดจากต้นแดนดิไลออน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Taraxacumoffininale เติบโตในเขตอบอุ่นของยุโรปและอเมริกาเหนือเป็นไม้ยืนต้นที่สามารถเติบโตสูงได้ถึง 12 ปี อุดมไปด้วยสารชื่อว่าทาแร็กซาซิน (Taraxacin) มีคุณสมบัติในการชะล้างสารพิษ (Detoxification) ช่วยให้ตับและไตสามารถขจัดสารพิษออกนอกร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยกรองสารพิษออกจากเลือด ขับสารพิษออกจากตับและไตกระตุ้นการสร้างน้ำดีที่ตับและเพิ่มการไหลน้ำดีไปยังถุงน้ำดีป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีช่วยควบคุมระดับไขมันในร่างกาย และช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ เป็นแหล่งวิตามินเอธรรมชาติ ช่วยบำรุงสายตาและมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกายลดอาการอักเสบบรรเทาอาการปวดบวมจากโรคเก๊าท์ 5.Wolfberry Fruit เก๋ากี๊เป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ ฟอลิฟินอล แคโรทีนและไพราโซล ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยเสริมระบบคุ้มกันและฟื้นฟูตัวเองของร่างกาย ช่วยลดการปวด อักเสบ และบวมในผู้ป่วยโรคเก๊าท์ เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อกระดูก ขจัดพิษออกจากร่างกายโดยเฉพาะในไตและตับ 6.Turmeric extract ขมิ้นชันมีสารเคอร์คูมิน (curcumin) ชะลอการสร้างพรอส-ตาแกลนดิน (prostaglandin) ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาการปวดเป็นกลไกคล้ายกันกับกลไกระงับปวดของแอสไพรินและไอบูโพรเฟนที่ปริมาณสูงๆเคอร์คูมินกระตุ้นต่อมหมวกไตให้หลั่งสารคอร์ติโซนเพื่อระงับการอักเสบและความปวดจากการอักเสบจึงช่วยลดอาการปวดข้อซึ่งเป็นอาการของคนเป็นโรคเก๊าท์

7.Krachaidum extractสารสกัดสำคัญหลายชนิด เช่น 5,7 – DMF มีฤทธิ์ต้านการอักเสบเทียบได้กับยามาตรฐานหลายชนิด คือ แอสไพริน, อินโดเมธาซิน, ไฮโครคอร์ติโซน และเพรดนิโซโลน โดยออกฤทธิ์ต้านการอักเสบแบบเฉียบพลันได้ดีกว่าแบบเรื้อรัง ในสัตว์ทดลอง สรรพคุณกระชายดำ ช่วยขับปัสสาวะ รักษาสมดุลของกรดยูริกในร่างกาย ช่วยรักษาโรคเก๊าท์ เป็น ยาอายุวัฒนะ ชะลอความแก่ ลดการเสื่อมสลายของเซล และช่วยรักษาโรคปวดข้อ, โรครูมาสติกได้อย่างยอดเยี่ยมช่วยสร้างความสมดุลของความดันโลหิตให้ไหลเวียนดีขึ้นขยายหลอดเลือด ขจัดไขมันในหลอดเลือด 

สารสกัดธรรมชาติ สรรพคุณเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าอย่างแท้จริง เพราะอุดมไปด้วย Rehmannia Root หรือเส็กตี่ยาสมุนไพรจีนโบราณที่มีใช้กันอย่างกว้างขวาง ช่วยในการลดกรดยูริก ขับกรดยูริกออกจากร่างกายมาพร้อมกับปัสสาวะ รักษาโรคเก๊าท์ ลดอาการอักเสบบวม กำจัดผลึกกรดยูริกที่เกาะอยู่ตามเนื้อเยื่อข้อ อย่างมีประสิทธิภาพสูงผสมผสานกับ Dandelion และ Ganodermalucidum เห็ดหลินจือ ที่ช่วยบำรุงระบบการทำงานของไตเพราะไตเป็นอวัยวะหลักที่มีส่วนช่วยในการรักษาโรคเก๊าท์สูงและกว่า 70% ของผู้ป่วยโรคเก๊าท์ เกิดจากสภาวะไตเริ่มเสื่อมสภาพหรือการทำงานของไตพกพร่องซึ่งพุทราจีนและเห็ดหลินจือมีคุณสมบัติลดการอักเสบของไต ฟื้นฟูไตให้สมบูรณ์ ปรับระบบการขับกรดยูริกทางไตสมบูรณ์ขึ้น ปริมาณกรดยูริกในร่างกายจึงอยู่สภาวะปกติ ซึ่งจำเป็นต่อผู้ป่วยโรคเก๊าท์อย่างมาก และยังมีคุณสมบัติของ Wolfberry Fruit เก๋ากี๊สมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ ฟอลิฟินอล แคโรทีนและไพราโซล ช่วยลดการปวด อักเสบ และบวมในผู้ป่วยโรคเก๊าท์ เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อกระดูก ขจัดพิษออกจากร่างกายโดยเฉพาะในไตและตับ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพฟรี ที่ 065-096-4419 , 093-264-9053 หรือ

คลิิ๊กลิงค์ด้านล่างทักแชทได้ทันทีhttps://line.me/R/ti/p/%40thanawatdboon







ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม