ปวดหัวเรื้อรัง


ปวดหัวเรื้อรัง



“ปวดศีรษะ” หรือ“ปวดหัว” เป็นอาการที่พบได้บ่อยและเกิดขึ้นได้กับทุกคน บางคนปวดๆ หายๆ แต่บางคนก็ปวดต่อเนื่องติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายวัน หรือเป็นปี ซึ่งเรียกว่า “ปวดหัวเรื้อรัง”

ทำไม ? คนเราชอบปวดหัว

ปกติแล้วอาการปวดหัวสามารถพบได้ทั่วไป บางคนอาจปวดเพียงเล็กน้อย บางคนอาจปวดมาก ซึ่งสาเหตุของการปวดหัวนั้นมีหลายอย่าง เช่น ปวดหัวจากความเครียด ปวดหัวไมเกรน หรือมีความผิดปกติด้านอื่นๆ ในร่างกาย เช่น เนื้องอกในสมอง เส้นเลือดในสมองโป่งพอง โพรงจมูกอักเสบ หรือสายตาผิดปกติ ฯลฯ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีความรุนแรงแตกต่างกัน

“ปวดหัวเรื้อรัง” เกิดจากสาเหตุอะไร

จริงๆ แล้วการปวดหัวเรื้อรัง คือลักษณะการปวดหัวที่มีอาการต่อเนื่องมากกว่า 15 วันต่อเดือน ติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน ซึ่งอาจเป็นการปวดหัวธรรมดาที่เกิดจากความเครียด ไมเกรน หรือใช้ยาแก้ปวดไม่ถูกต้องทำให้มีอาการปวดต่อเนื่องจนกลายเป็นอาการปวดหัวแบบเรื้อรัง แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นอาการปวดหัวที่นำไปสู่โรคร้ายอื่นๆ ได้เช่นกัน

ปวดแบบไหน...ไม่อันตราย

อาการปวดหัวที่เกิดจาก การปวดหัวไมเกรน ปวดหัวจากความเครียด การใช้ความคิด การนั่งทำงานนานๆ แสงสว่างไม่พอ เกิดความตึงของกล้ามเนื้อ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย อาการเหล่านี้เป็นอาการปวดหัวที่ไม่ได้เป็นอันตราย แม้ว่าอาการปวดหัวเรื้อรังจะรักษาไม่หายขาด แต่สามารถป้องกันและทำให้บรรเทาลงได้

และปวดเรื้อรังแบบไหน...ถึงอันตราย

เมื่อไหร่ที่มีอาการปวดหัวแบบรุนแรงมากหรือรุนแรงที่สุดในชีวิตที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยมักมีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย เช่น แขนขาอ่อนแรง ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน การได้ยินลดลง หรือชักเกร็ง กระตุก เดินเซ หรือคอแข็ง หรือมีอาการปวดหัวรุนแรงที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน นั่นอาจเป็นอาการของโรคอื่นที่แอบแฝง เช่น เนื้องอกในสมอง มะเร็งสมอง เส้นเลือดสมองโป่งพอง หรือความดันโลหิตสูง เป็นต้น

มีอาการเหล่านี้อย่าชะล่าใจ...รีบมาพบแพทย์ด่วน!

  1. ปวดศีรษะรุนแรงขึ้นแบบทันทีทันใด

  2. ปวดศีรษะพร้อมกับมีไข้และคอแข็งร่วมด้วย

  3. ปวดศีรษะร่วมกับอาการทางระบบประสาทผิดปกติ เช่น แขนขาอ่อนแรง เดินเซ ปากเบี้ยว เป็นต้น

  4. อาการปวดศีรษะในผู้ป่วยโรคมะเร็ง หรือ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV

  5. ปวดศีรษะมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่ตอบสนองต่อการรักษา


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม