โรคเบาหวานดูแลแบบไหนดี

มารู้จักโรคเบาหวานสักนิด



อาการโรคเบาหวาน




โรคเบาหวานดูแลแบบไหนดี






 สาเหตุของเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูง/ต่ำ

 โรคความดันโลหิตสูง
 อ้วนหรือน้ำหนักเกินมาตรฐาน
 ประวัติครอบครัว เป็นโรคเบาหวาน
 อาหารที่มีส่วนประกอบของแป้งและน้ำตาล

 อายุ เมื่ออายุมากขึ้น ตับอ่อนจะสร้างอินซูลินได้น้อยลง
 ความผิดปกติของตับอ่อน ทำให้มีอินซูลินน้อยกว่าน้ำตาลในเลือด



อาการของโรคเบาหวาน



 อาการของเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูง/ต่ำ

 หิวบ่อย
 หิวนํ้าบ่อย
 ปัสสาวะบ่อย
 ง่วงนอนบ่อย

 ปัสสาวะเป็นฟอง
 หน้ามืด เวียนหัว วูบ

 ตาพร่ามัว มองไม่ชัด
 ปัสสาวะหวาน มดขึ้น
 เบื่ออาหาร ไม่หิวข้าว
 อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
 ลิ้นชา ลิ้นแข็ง ลิ้นเป็นฝ้า
 ท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย
 ปวด แน่น จุกเสียดหน้าอก
 ปวดแสบ ปวดร้อน ที่มือ ที่เท้า
 น้ำหนักลดลง โดยไม่ทราบสาเหตุ
 มือบวม เท้าบวม หน้าบวม บวมน้ำ
 อาการเหน็บชา มือชา เท้าชา ขาชา
 ผิวแห้ง ผื่นคัน ผิวคล้ำ ผิวหนังอักเสบ
 ปวดเมื่อย ปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อ
 ปวดหัว ปวดมือ ปวดเท้า ปวดขา ปวดหลัง

 เกิดบาดแผลง่าย บาดแผลหายช้า ติดเชื้อบ่อย

 โรคที่เกิดจากเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูง/ต่ำ

 โรคไตเสื่อม ไตวาย
 โรคหลอดเลือดในสมอง
 โรคหัวใจและหลอดเลือด
 โรคปลายประสาทอักเสบ
 โรคติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
 โรคจอประสาทตาเสื่อม ตาบอด
 โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ อุดตัน
 โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไม่มีอารมณ์ นกเขาไม่ขัน น้องชายไม่แข็งตัว



วิธีดูแลเบาหวานแบบธรรมชาติ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุภาพฟรี ที่ 065-096-4419 , 093-264-9053 หรือคลิิ๊กลิงค์ด้านล่างทักแชทได้ทันที
https://line.me/R/ti/p/%40thanawatdboon






แนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลเบาหวาน




ส่วนประกอบที่สำคัญในผลิตภัณฑ์ D-MUND(ดีมุนด์)

1.โสม : โสม ออกฤทธิ์ต่อปอด ม้าม และกระเพาะอาหาร ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงอวัยวะภายในร่างกาย ทำให้ร่างกายชุ่มชื่น ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย และยังมีสรรพคุณทางกายรักษาอื่นๆอีกมากมาย เช่น
-ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ปรับการทำงานของต่อมไร้ท่อต่าง ๆ
-ช่วยแก้อาการหน้ามืดเป็นลม
-ช่วยแก้อาการเหงื่อออกไม่รู้ตัว กระหายน้ำ
-ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร
-ช่วยแก้หัวใจเต้นผิดปกติ หรือหายใจผิดปกติ
-โสมมีสรรพคุณเป็นยาช่วยบำรุงหัวใจ โดยออกฤทธิ์คล้ายกับยา digoxin ช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด ป้องกันภาวะเส้นเลือดอุดตัน
-ใช้รักษาและป้องกันโรคผนังเส้นเลือดแดงใหญ่หนาและแข็ง โดยโสมจะไปช่วยทำให้คอเลสเตอรอลที่เกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดลดน้อยลง
-โสมมีฤทธิ์ต้านการจับตัวกันของเกล็ดเลือด อันเป็นสาเหตุสำคัญของการอุดตันของหลอดเลือด
-โสมมีฤทธิ์สร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งสามารถนำมาใช้รักษาผู้ที่มีเลือดน้อยหรือผู้ที่โลหิตจางและความดันต่ำได้ และยังช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงในกระดูกได้อีกด้วย
-โสมมีฤทธิ์ต้านพิษต่อตับ โดยโสมสามารถช่วยป้องกันการเกิดพิษต่อตับอันเกิดจากคลอโรฟอร์ม คาร์บอนเตตระคลอไรด์และแอลกอฮอล์ได้
-ใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับความผิดปกติต่าง ๆ เช่น หย่อนสมรรถภาพทางเพศ อาการท้องผูก ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติ โลหิตจาง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และความเครียด
-ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบในหญิงวัยหมดประจำเดือนหรืออาการวัยทอง
-ช่วยลดอาการผิวหนังแห้งและเหี่ยวย่น จึงช่วยทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้น
-ช่วยเร่งฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายของผู้ป่วย ช่วยลดอาการข้างเคียงจากการฉายรังสี จากการศึกษาพบว่าโสมสามารถช่วยต่อต้านโรคและอันตรายที่เกิดจากรังสีรวมถึงสารพิษต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-โสมมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัส HIV-1
-ช่วยป้องกันอันตรายจากรังสีแกมมา
-ช่วยกระตุ้นการสร้างอสุจิ
-ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของรังไข่และการตกไข่
2.สมุนไพรปัญจขันธ์ (เจียวกู่หลาน) : มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยชะลอความชรา และยังมีสรรพคุณทางการรักษาอื่นๆอีกมากมาย เช่น
-ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงดีขึ้น ความจำฟื้นคืนปกติ อาการนอนไม่หลับและอาการปวดหลังปวดเอวหายไป
-ใช้เป็นยารักษามะเร็ง ต้านทานการเจริญเติบโตของเชื้อมะเร็ง ปัญจขันธ์มีสรรพคุณช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งปอด มะเร็งในช่องท้อง มะเร็งลำไส้ มะเร็งทางเดินอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งมดลูก มะเร็งเต้านม และอื่น ๆ อีกรวมกว่า 20 ชนิด
-ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล ลดไขมันในเส้นเลือด
-ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ มีอาการปวดบิดทางหัวใจ ในขณะเดียวกันผู้ที่มีความดันโลหิตต่ก็ำจะปรับความดันให้เป็นปกติ
-ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง
-ช่วยยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือด
-เป็นยาเย็น ใช้เป็นยาดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ รักษาไข้หวัด แก้ร้อนในต่าง ๆ
-ช่วยทำให้ตับแข็งแรง ใช้รักษาตับอักเสบติดเชื้อหรือตับอักเสบชนิดไวรัสบี กรวยไตอักเสบ
-ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก
3.พลูคาว :พบได้ทั่วไปในแถบทวีปเอเชียในแถบเทือกเขาหิมาลัยไปจนถึงเวียดนาม ญี่ปุ่น รวมถึงไทยด้วย มีฤทธิ์ในการช่วยต่อต้านมะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
-ช่วยยับยั้งเบาหวาน รักษาความสมดุลของร่างกาย
-มีฤทธิ์ในการช่วยต่อต้านมะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
-มีฤทธิ์ในการช่วยบำบัดฟื้นฟูโรคความดันโลหิตสูง
-ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ต้านทานโรค ช่วยยืดอายุผู้ป่วยให้อยู่สู้โรคได้นานมากขึ้น
-ช่วยทำให้กระดูกเชื่อมติดกันเร็วขึ้น
-ใช้รักษาโรคติดเชื้อและทางเดินหายใจ
-มีส่วนช่วยกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์เม็ดเลือดขาวช่วยรักษาภาวะภูมิแพ้ หอบหืด
4.เบต้า-กลูแคน เป็นสารประกอบประเภท น้ำตาลหลายโมเลกุลที่ได้จากธรรมชาติ พบได้ในพืช ยีสต์ ธัญพืช ข้าวบาร์เล่ ว่านหางจระเข้ และเห็ดบางชนิด มีการวิจัยว่า เมื่อร่างกายได้รับ เบต้า กลูแคน จากอาหาร เบต้ากลูแคนจะถูกย่อย และดูดซึมในลำไส้เล็ก และถูกลำเรียงเข้าสู่ส่วนต่างๆของร่างกาย โดยเบต้ากลูแคน จะไปกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกัน ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะโดยปกติแล้ว เซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายของสิ่งมีชีวิตจะไม่ทำงานจนกว่าร่างกายจะได้รับสิ่งแปลกปลอม แต่เบต้ากลูแคนจะไปช่วยกระตุ้นให้เซลล์ภูมิคุ้มกันทำงานได้ตลอดเวลา และยังมีสรรพคุณทางการรักษาอื่นๆอีกมากมาย เช่น
-ปรับสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด ให้อยู่ในระดับที่ปกติ
-ปรับระดับคลอเลสเตอรอล ทั้งคลอเลสเตอรอลชนิดที่ดีและไม่ดี
-ช่วยขยายหลอดเลือด และปรับในเรื่องความหนืดและการเกิดลิ่มเลือด
-ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วหลังการทำเคมีบำบัด
-ปรับสมดุลความดันโลหิตทั้งสูงและต่ำ ให้อยู่ในระดับที่ปกติ
-เพิ่มภูมิต้านทานในร่างกาย ช่วยเกี่ยวกับภูมิแพ้ ไข้หวัด และโรคเอสแอลอี(SLE)
5.อบเชย : เปลือกต้นและเนื้อไม้ มีรสเผ็ด หวานชุ่ม มีกลิ่นหอม เป็นยาร้อนออกฤทธิ์ต่อไต ม้าม และกระเพาะปัสสาวะ ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายอบอุ่น ช่วยกระจายความเย็นในร่างกาย ทำให้เลือดหมุนเวียนดี
-อบเชยมีสรรพคุณช่วยทำให้ร่างกายมีความสามารถในการใช้อินซูลินเพื่อการสันดาปกลูโคสได้ดีขึ้น
-อบเชยสามารถลดการดื้ออินซูลินทำให้เซลล์ต่าง ๆ นำน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานให้หมดไปไม่ค้างอยู่ในเลือด
-อบเชยเหมาะสำหรับผู้เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
6.เห็ดยามาบูชิตาเกะ(เห็ดปุยฝ้าย) : เป็นเห็ดที่มีลักษณะเหมือนเส่นไหมสีขาวๆเป็นพุ่ม ไม่ได้เกิดขึ้นตามพื้นดิน แต่จะเกาะอยู่ตามบริเวณไม้ยืนต้นต่างๆ เช่น ต้นโอ๊ค วอลนัท เป็นเห็ดตัวเอกของทางการแพทย์ที่กำลังได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในเวลานี้ และยังมีสรรพคุณอีกมากมายดังนี้

-ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย
-ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยทำให้อายุยืนยาว
-ช่วยชะลอแก่ ชะลอวัย
-ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
-ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยควบคุมอาการเบาหวาน
-ช่วยลดความดันโลหิตและรักษาโรคความดันโลหิตสูง
-ช่วยปรับความดันโลหิตทั้งสูงและต่ำให้สมดุล
-ช่วยลดไขมันในเลือด
-ช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น ให้พลังชีวิตมากขึ้น
-ช่วยส่งเสริมระบบการไหลเวียนของเลือดให้ดียิ่งขึ้น
-ช่วยทำให้ความจำดีขึ้น
-ช่วยผ่อนคลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้นอนหลับได้สนิท
-ช่วยทำให้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ดีขึ้น
-กระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวสร้างสารต้านมะเร็ง
-ช่วยแก้พิษจากรังสี คีโม
-ช่วยบำรุงตับและรักษาโรคตับ ตับแข็ง ตับอักเสบ
7.อาร์ติโชค(Artichoke) : ในประเทศบราซิล ใช้เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน รักษาอาการเจ็บป่วยของตับ โลหิตจาง เบาหวาน รักษาบาดแผลและเก๊าส์ เป็นต้น
-ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดในคนที่เป็นเบาหวาน
-ลดระดับคอเลสเตอรอล
-เป็น natural diuretic ขับน้ำที่ร่างกายไม่ต้องการ
-มีสารไซนาริน (Synarin) ช่วยบำรุง กระตุ้นการทำงานของตับ
-กระตุ้นการสร้างน้ำดีของตับ ลดไขมันและคอเลสเตอรอลได้ดี
-ช่วยให้ระบบหลอดเลือดและหัวใจทำงานได้ดี ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
-เสริมสร้างการทำงานของถุงน้ำดี ปัองกันถุงน้ำดีอักเสบ
-ป้องกันตับอักเสบ สาเหตุโรคดีซ่าน (Jaundice) และโรคตับแข็ง (Cirrhosis)
8.ชาเขียว : ชาเขียวถูกนำมาใช้ในการรักษาตั้งแต่โรคปวดศีรษะไปจนถึงโรคซึ่มเศร้า
-ช่วยป้องกันตับจากพิษและโรคอื่น ๆ
-ช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
-ชาเขียวมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ
-ต้านเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้
-ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส
-ต้านเชื้อ Botulinus และเชื้อ Staphylococcus
-ช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีและในไต
-ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
-ช่วยให้เลือดไม่ข้นเหนียว

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพฟรี ที่ 065-096-4419 , 093-264-9053 หรือคลิิ๊กลิงค์ด้านล่างทักแชทได้ทันที


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม